โรแบร์โต้ คาร์ลอส เกิดในวันที่ 10 เมษายน 1973 ที่เซาเปาโล ประเทศบราซิล ชีวิตในวัยเด็กของเขา ก็เช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆในประเทศบราซิล ที่มีความหลงใหลในฟุตบอล และกิจกรรมยามว่างก็คือการเล่นฟุตบอล เขามีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

แต่ด้วยการที่เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ของเขาอยากให้ คาร์ลอส ทำงานช่วยเหลือครอบครัวด้วยการทำงานในโรงงานทอผ้า เขาทำงานตั้งแต่อายุ 12 ปี คาร์ลอสเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว เขาจะใช้เวลาหลังเลิกงานในการเล่นฟุตบอลที่เขารัก เขามี ดิเอโก มาราโดนา เป็นนักเตะในดวงใจ ทำให้เขามีความคิดที่จะกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่อย่าง มาราโดนา ให้ได้

ในปี 1990 คาร์ลอส ในวัย 17 ปี คิดถึงเส้นทางชีวิตของเขาในวันข้างหน้า และสุดท้าย เขาก็ตัดสินใจที่จะไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรท้องถิ่น อย่าง ยูเนียน เซ็นต์จอห์น  และเขาก็ได้รับการตอบรับให้เข้าร่วมทีมในที่สุด  คาร์ลอส เป็นนักเตะที่มีความรวดเร็ว ยิงประตูได้รุนแรง ทุกครั้งที่ คาร์ลอสลงสนามให้กับทีม เขาก็สามารถทำประตูได้อย่างมากมาย จนฝีเท้าของเขาก็ไปเตะตาทีมฟุตบอลชั้นนำของบราซิลอย่าง ปัลไมรัส ในปี 1993 ที่ดึงตัวเขาไปร่วมทีม และที่นี่ คาร์ลอส สามารถพัฒนาให้กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพมากขึ้น และเนื่องจากเขามีรูปร่างเตี้ย ทำให้โค้ช เลือกให้คาร์ลอส เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีม โดยใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งของเขาในการเติมเกมทางด้านซ้าย เขามีจุดเด่นในลูกตั้งเตะ และในที่สุด โรแบร์โต้ คาร์ลอส ก็กลายเป็นชื่อนักเตะในตำแหน่งแบ็กซ้าย ที่น่าจับตามองที่สุดในบราซิล

มาในปี 1995 คาร์ลอส ก็ได้พบกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งใหญ่เมื่อ อินเตอร์ มิลาน สโมสรชื่อดังในประเทศอิตาลี ได้ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีม ซึ่งมันเป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องเดินทางออกมาจากประเทศบ้านเกิด พร้อมกับความกดดันที่จะต้องย้ายมายังต่างถิ่น พร้อมกับแบกรับความคาดหวังของแฟนบอลไว้เต็มบ่า ซึ่งในช่วงแรก คาร์ลอส ทำผลงานออกมาได้มีดีนัก เนื่องจากเขาถูกวางตัวให้เล่นในตำแหน่งที่เขาไม่ถนัดบวกกับการที่เขาต้องมาอยู่ในต่างถิ่นเป็นครั้งแรก คาร์ลอสไม่ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งกับอินเตอร์ มิลาน โดยเขาใช้เวลาอยู่กับอินเตอร์ มิลานเพียงแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้น โดยลงสนามไป 30 นัด ทำไป  5 ประตู

ในปี 1996  คาร์ลอส ย้ายไปร่วมทีมกับ เรอัล มาดริด ทีมดังในลาลีกา สเปน และที่นั่นเขาก็ได้เล่นกับเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งก็คือ โรนัลโด้ นั่นเอง และที่ เรอัล มาดริด คาร์ลอส กลับมาเล่นฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง เขาพัฒนาฝีมือตัวเองจนกลายเป็นแบ็กซ้ายที่มีฝีเท้าที่เก่งกาจ และเป็นนักเตะที่ดุดันที่สุดในโลก เขามีท่าไม้ตายคือลูกฟรีคลิกอันทรงพลังยากที่ผู้รักษาประตูคนใดจะรับไว้ได้ สำหรับลูกยิงของเขา เคยมีการบันทึกไว้ว่ามีความเร็วถึง 130-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

และชื่อของ คาร์ลอส ก็ดังไปทั่วโลก ในเกมที่เขาลงสนามให้กับทีมชาติบราซิล ที่พบกับทีมชาติบราซิล ในฟุตบอลโลก 1997 กับลูกยิงที่มีชื่อว่า บานาน่าชู้ต ซึ่งเป็นลูกยิงที่คนทั่วโลกต้องจดจำ เขายิงไกลในระยะ 38 หลา บอลโค้งเฉียดเสาเข้าประตูไปแบบน่าเหลือเชื่อ และในปีเดียวกัน คาร์ลอสยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วย เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลีกของสเปนได้เป็นครั้งแรก

ในปี 1998 เรอัล มาดริด สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ แน่นอนว่าความสำเร็จในครั้งนี้ มีคาร์ลอสเป็นส่วนสำคัญอย่างแน่นอน

ในระยะเวลา 10 ปีที่คาร์ลอสค้าแข้งกับเรอัล มาดริด เขาประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เขากลายมาเป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ก่อนที่เขาจะตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้งในชีวิตบั้นปลายการค้าแข้งของเขา คาร์ลอสลงสนามให้กับเรอัล มาดริด มาทั้งหมด 370 นัด ทำไป 47 ประตู

ในปี 2007 คาร์ลอส ย้ายไปอยู่กับ เฟแนร์บาห์เช ก่อนที่จะประกาศแขวนสตั๊ดในครั้งแรกในปี 2009 ที่นั่น

มาในปี 2010 คาร์ลอสกลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยเขาเลือกมาเล่นให้กับ คอรินเทียนส์  ทีมฟุตบอลในประเทศบราซิล เป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาล เขาลงสนาม 35 นัด ทำไป 1 ประตู

ปี 2011 -2012 คาร์ลอส ตกลงเซ็นสัญญากับ  สโมสรอันจีมาคัชคาลา ทีมในประเทศรัศเซีย โดยมีการพ่วงสัญญาผู้จัดการทีมด้วย

ปี2013-2014 คาร์ลอส รับงานหน้าที่ใหม่ของเขาด้วยตำแหน่งผู้จัดการทีมให้กับ ซิวาสสปอร์ ทีมฟุตบอลในตุรกี

ปี 2015 คาร์ลอส ย้ายไปร่วมทีมกับสโมสร เดลีไดนาโมส ในอินเดียนซูเปอร์ลีก ประเทศอินเดีย และเขาก็แขวนสตั๊ดเป็นครั้งที่สองในชีวิตของเขา

สำหรับผลงานในทีมชาติบราซิล เขาติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1992 และลงสนามให้กับทีมชาติบราซิลครั้งสุดท้ายในปี 2006 ตลอดระยะเวลาที่เขารับใช้ทีมชาติบราซิล คาร์ลอส สร้างผลงานไว้อย่างมากมาย แชมป์ปา อเมริกัน ปี 1997 ,1999 ,แชมป์คอนเฟเดอร์เรชั่น คัพ ปี 1997 เหรียญเงินโอลิมปิก เกม ปี 1996 แชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002