สมาคมฟุตบอลอียิปต์ได้ยื่นคำร้องให้ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) รวมถึงหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้อง ทำการสอบสวนเหตุที่แฟนบอลเซเนกัล ได้ก่อเหตุคุกคามนักเตะทีมชาติอียิปต์ ในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา นัดที่สอง เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
โดยในเกมนัดนี้ ทีมชาติอียิปต์ บุกไปเยือน ทีมชาติเซเนกัล โดยพ่ายไปในเวลา 90 นาที 0-1 เมื่อนับคะแนนรวม 2 นัด ทำให้เสมอกันอยู่ที่ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ สุดท้ายต้องใช้การตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นทาง ทีมชาติเซเนกัล ที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ได้สำเร็จ
แต่ตลอดเกมในนัดนี้เกิดประเด็นปัญหาเมื่อ นักเตะของทางฝั่งทีมชาติอียิปต์ ได้ถูกทางแฟนบอลของทีมชาติเซเนกัล ก่อกวนอยู่ตลอดเวลา ด้วยการชูป้ายที่มีข้อความข่มขู่รุนแรงและใช้สิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำและก้อนหินปาใส่บรรดานักเตะในช่วงที่นักเตะกำลังอบอุ่นร่างกายอยู่ข้างสนาม นอกจากนี้แฟนบอลของเซเนกัลยังได้บุกกันเข้าไปที่รถบัสของทีมชาติอียิปต์ตั้งแต่ในช่วงก่อนที่จะเริ่มเกมการแข่งขันจนเป็นเหตุให้รถบัสของทีมได้รับความเสียหาย กระจกแตก และยังมีทีมงานบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากในเหตุการณ์นี้ด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงการแข่งขัน ยังมีการก่อกวนด้วยการยิงเลเซอร์สีเขียวมาที่ตัวของบรรดานักเตะของทีมชาติอียิปต์ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในสนามแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะของทีมชาติอียิปต์ที่ตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลเซเนกัลอย่างหนัก โดย ซาลาห์ เจ้าของฉายา คิง ออฟ อียิปต์ โดนทางแฟนบอลยิงด้วยเลเซอร์สีเขียวที่ใบหน้าและตามตัวอยู่ตลอดเกมการแข่งขัน และที่สำคัญที่สุดคือในช่วงที่ ซาลาห์ กำลังจะดวลจุดโทษสำคัญ เขาก็โดนรบกวนด้วยการยิงเลเซอร์มาที่ใบหน้าของเขาโดยเฉพาะบริเวณตา และมันอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการที่ทำให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เสียสมาธิจนยิงจุดโทษข้ามคานออกไป มีหลายคนมองว่า ฝีมือในระดับ ซาลาห์ แล้ว ไม่น่าจะพลาดการดวลจุดโทษได้ หากไม่โดนก่อกวนจนทำให้เสียสมาธิเช่นนี้
โดยหลังจบเกม ก็ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาพยายามพาตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะของลิเวอร์พูล ออกไปจากสนามการแข่งขันโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของตัวนักเตะ เนื่องจากได้มีบรรดาแฟนบอลจำนวนมากพยายามบุกลงมาในสนาม
จากปัญหาความวุ่นวายในเกมนัดดังกล่าวทำให้ หลังจบเกมในนัดนี้ ทางสมาคมฟุตบอลอียิปต์ ได้ทำการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ทำการตรวจสอบไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) , สหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย
ซึ่งทาง สมาคมฟุตบอลอียิปต์ ได้ออกแถลงการณ์โดยมีใจความว่า “ ในเกมดังกล่าวทีมชาติอียิปต์ได้ตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลเซเนกัล โดยการเหยียดด้วยการชูข้อความที่เขียนด้วยคำที่รุนแรงที่เป็นการต่อว่านักเตะทีมชาติอียิปต์ โดยเฉพาะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์”
“ และสิ่งที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ แฟนบอลเหล่านั้นได้ตั้งใจทำร้ายนักเตะของอียิปต์ด้วยการขว้างปาสิ่งของจำพวกขวดน้ำและก้อนหินในระหว่างที่นักเตะกำลังทำการอบอุ่นร่างกายอยู่ รวมถึงได้มีการบุกเข้ามาที่รถบัสของนักเตะและเจ้าหน้าที่และก่อความวุ่นวายจนทำให้ทรัพย์สินเสียหายนั้นก็คือกระจกแตก และยังมีเจ้าหน้าที่บางคนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลอียิปต์ได้มีการส่งหลักฐานทั้งวิดีโอและภาพถ่ายให้กับทางฟีฟ่าแล้ว”
ซึ่งหลังจบเกมดังกล่าว ก็ได้มีการเปิดเผยคำพูดของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับเพื่อนร่วมทีม หลังจากที่ซาลาห์พลาดการยิงจุดโทษ และพบกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ว่า “เขามีความภูมิใจที่ได้เล่นกับเพื่อนร่วมทีมชาติอียิปต์ทุกคน และทุกคนเป็นนักเตะที่ดีที่สุด และเขามองว่ามันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เล่นกับพวกเขาทุกคน ซึ่งเขาเองยังไม่รู้ว่าจะอยู่กับทีมชาติอียิปต์ต่อไปหรือไม่หลังจากนี้”
แต่หลังจากที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พูดจบประโยคนี้ ทาง อาชราฟ ซอบฮี รัฐมนตรีกีฬาของประเทศอียิปต์ ก็ได้พูดสวนขึ้นมาทันทีว่า “ แน่นอน ซาลาห์ ยังจะต้องอยู่กับพวกเราต่อไป”